ทั้งนี้เองผ้าม่านมีหลายชนิดด้วยกัน ก่อนเลือกผ้าม่านก็ต้องรู้จักกับชนิดและเนื้อผ้าของม่าน รวมไปถึงโทนสีที่จะนำมาตกแต่งบ้านก่อน ซึ่งโดยทั่วไปความแตกต่างของผ้าม่านจะขึ้นอยู่กับวัสดุในการทักทอและมีราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักร้อยไปยังหลักหมื่น โดยผ้าม่านจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดด้วยกันคือ
ผ้าม่านกัน UV หรือม่านแบบประกบ (Curtain) ผ้าม่านแบบนี้ส่วนใหญ่จะทอด้วยด้านสีดำตรงกลางหรือประกบกับผ้ากัน UV เอาไว้ โดยสามารถกรองแสงแดดได้ถึง 20% นอกจากนั้นยังดูดรังสีที่เป็นอันตรายแก่ผิวหนัง จำพวก UVA UVB ได้อีกด้วย
ผ้าม่านแบบทึบแสง (Black Out) เป็นผ้าที่มีความหนา และสามารถสะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี สามารถกันแสงได้ 100% ผ้าม่านแบบนี้นิยมติดในห้องนอน หรือห้องที่ต้องการพักผ่อนอย่างจริงจัง และยังมีราคาแพงกว่าผ้าชนิดอื่น
ผ้าม่านแบบโปร่ง (Sheer) เป็นผ้าที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ มีคุณสมบัติกันแสงได้มากกว่าเนื้อผ้าแบบลินินเพราะมีซับใน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นผ้าที่มีลักษณะโปร่ง ซึ่งแสงแดดสามารถลอดเข้ามาได้
ผ้าม่านแบบแสงผ่านได้บ้าง (Dim Out) เนื้อผ้าแบบนี้จะพบเห็นได้ทั่วไปตามโครงการบ้านเดี่ยว หรือคอนโดมิเนียม เพราะเป็นผ้าที่มีอายุการใช้งานคงทนทนต่อการใช้งานจากสารเคลือบสำหรับป้องกันแสงแดดทำให้สีของผ้าไม่ซีด และเป็นผ้าม่านที่ได้รับนิยมในบ้านเรา
ทั้งนี้เองวัสดุของผ้าที่นำมาทักทอเป็นผ้าม่านก็จะแตกต่างกันไปด้วย ขึ้นอยู่กับประโยชน์ใช้สอยและราคา ซึ่งประกอบไปด้วย
ผ้าไหม (Silk) เป็นผ้าเนื้อบาง มีความเงางาม ดูมีราคา เนื้อผ้าไม่ค่อยทิ้งตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการม่านแบบมีจีบที่มีความคงทน แต่ก้มีข้อเสียคือเป็นผ้าม่านที่ยับง่าย ราคาค่อนข้างแพงไม่ค่อยเป็นที่นิยม
ผ้ากำมะหยี่ (Velvet) เนื้อผ้าค่อนข้างหนา ผิวสัมผัสนุ่ม เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งบ้านให้ดูหรูหรา และไม่นิยมรีดจีบปล่อยลอนผ้าม่านให้เป็นไปตามธรรมชาติ ราคาสูง นิยมนำไปตกแต่งบ้านหรูสไตล์ยุโรป
ผ้าฝ้าย (Cotton) เนื้อผ้ามีทั้งแบบบาง แบบหนา เนื้อผ้านุ่ม สีผ้าออกด้านไม่เงาดูเรียบง่ายสบายตา เป็นผ้าม่านระดับเริ่มต้นโครงการที่อยู่อาศัยนิยมใช้ม่านแบบนี้ในการตกแต่งบ้าน แต่มีข้อเสียหลักๆ คือเป็นผ้าม่านที่อมฝุ่น ราคาปานกลางเป็นที่นิยมสำหรับคนที่กำลังตกแต่งบ้านใหม่
ผ้าซาติน (Satin) เนื้อผ้าจะค่อนข้างหนา ผิวผ้าลื่นเป็นเงา มีความเรียบง่ายและดูหรูหราในตัว ผ้าจะมีน้ำหนักและทิ้งตัวดี เป็นเนื้อผ้าที่ทำความสะอาดง่าย และคืนทรงดีไม่ค่อยเกิดรอยยับ มีหลายเนื้อผ้า หลายราคาแตกต่างกันไปตามการใช้งาน
ผ้าลินิน (Linen) ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าเนื้อหนา ผิวผ้าค่อนข้างหยาบ มีการดูดซึมความชื้นที่ดีและความต้านทานความร้อนดี ให้อารมณ์ตกแต่งบ้านที่ดูเป็นธรรมชาติ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่เนื้อผ้าจะสกปรกและยับง่าย ส่วนราคาค่อนข้างเป็นมิตรเหมาะสำหรับคนที่มีงบในการตกแต่งม่านที่จำกัด
ผ้าใยสังเคราะห์ (Polyester หรือ Nylon) เนื้อผ้ามีหลายชนิด ทั้งหนา บาง นุ่ม หยาบ เหมาะที่จะทำผ้าม่านจีบถาวร ส่วนมากมีผิวออกมันวาว ไม่ค่อยจับฝุ่น แต่ถ้าโดนแดดจัดๆ สีของผ้าม่านอาจจะซีดจางลงเร็วกว่าเนื้อผ้าชนิดอื่น นอกจากชนิดของผ้าม่านที่ต้องรู้จักแล้ว เนื้อผ้ามีหลายเกรดหลายราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยขึ้นไปต่อเมตร
โทนสีส่วนหนึ่งของผ้าม่าน
อีกสิ่งหนึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อผ้าม่านก็คือการเลือกโทนสีให้เหมาะกับตัวบ้าน ซึ่งจะมีทั้งแบบสีพื้น ลายดอก ลายทาง ลายกราฟิกต่างๆ โดยทั้งนี้เรื่องสีสันจะอยู่ที่ความชอบของส่วนบุคคล เพียงแต่ปัจจัยหลักๆ ในการเลือกผ้าม่านควรคำถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ส่วนความสวยงามเป็นเรื่องที่ตามมา โดยในเรื่องของสีสันไม่ว่าผ้าม่านจะเป็นลวดลายไหนก็ตามควรเลือกสีโทนเย็นเป็นหลักเพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งานของผ้าม่านในการป้องกันความร้อนและแสงแดด
ขอขอบคุณ : www.ddproperty.com
ช่องทางติดต่อสอบถาม

—————————————-
อี.พี.เดคคอร์ (ประเทศไทย)
ผู้ผลิตรางม่านและอุปกรณ์ม่านรายเดียวในประเทศไทย
ที่ได้รับรอง ISO 9001 สินค้ามีรับประกันคุณภาพ
☎ สำนักงานใหญ่ เชียงใหม่ : 053-353220, 087-6573977
📞 อี.พี. เชียงราย : 053-767596
📞 อี.พี. เดคคอร์ อุดร : 087-7868494